Pertinent Findings : Positive Findings
History
- Nasal obstruction
- Rhinorrhea, persistent purulent discharge
- Sneezing
- Hyposmia
- Post nasal drip
- Chronic mouth breathing
- Underlying allergic rhinitis, recurrent nasal polyp and chronic
sinusitis
- allergy skin testing (Inhalant) : allergic to house-dust mite, cockroach
mix and smuts
- On immunotherapy, Flixonase, Tinset
- Past history of FESS for 5 times
- Strong family history of allergy
Physical Exam
- Nasal masses both sides in middle meatus, gray collor, smooth surface
Problem List
Chronic progressive nasal obstruction with bilateral nasal mass with
underlying allergic rhinitis and chronic sinusitis
Discussion : Chronic progressive nasal obstruction with bilateral nasal
mass with underlying allergic rhinitis and chronic sinusitis
ผู้ป่วยรายนี้ พบว่าประวัติการเป็นนั้นยาวนานมาก
โดยผู้ป่วยนั้น แรกทีเดียว พบว่ามีประวัติของการเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือ
หวัดเรื้อรังจากภูมิแพ้ ซึ่งทราบได้จากประวัติการคัดจมูก น้ำมูกไหล และ จามบ่อย
ๆ เป็น ๆ หาย ๆ โดยเฉพาะเวลาสัมผัสกับสารที่แพ้
แต่เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยต้องทำงานที่คลุกคลีกับฝุ่นตลอดเวลา
(เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง) ดังนั้นจึงมีอาการเกือบตลอดเวลา จึงคิดว่า
allergic rhinitis ของผู้ป่วยรายนี้ น่าจะเป็น perennial
type or non-seasonal type ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยกว่า
seasonal type ในประเทศไทย
และประเทศที่อยู่ในเขตอบอุ่นหรือเขตร้อน โดยสารที่ผู้ป่วยแพ้นั้น จากการทำ
skin test พบว่าผู้ป่วยแพ้ house-dust mite, cockroach mix
and smuts โดยเหตุเสริมที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคนั้น
คิดว่าน่าจะเนื่องจาก physical factors ได้แก่
การขาดการออกกำลังกาย direct irritants ร่วมกับมี
strong family history of allergy ได้แก่ บิดา และน้องสาว
รวมถึงบุตรคนโตก็เป็นโรคหอบหืด
ต่อมาอาการคัดแน่นจมูกเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนหายใจไม่ออก
เป็นตลอดเวลา ไม่เป็น ๆ หาย ๆ เหมือนระยะแรก ต้องหายใจทางปากช่วย
มีเสมหะไหลลงคอ น้ำมูกข้นสีเขียวหรือสีเหลือง ไอ ระคายคอ ต้องขากเสมหะบ่อย ๆ
ต่อมามีอาการการรับกลิ่นเสียไป การรับรสเสียไป ทำให้รับประทานอาหารไม่อร่อย
ไม่มีไข้ ผู้ป่วยจึงพบแพทย์ (ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง)
ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นริดสีดวงจมูก
เป็นรักษาโดยวิธีการผ่าตัดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังจากผ่าตัด
ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น หายเป็นเกือบปกติ ต้องรับประทานยาตลอดเวลา
แต่ทว่าผู้ป่วยรับการรักษาที่โรงพยาบาลอื่น
จึงไม่ทราบรายละเอียดว่าผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดประเภทใด
ต่อมา ผู้ป่วยมีอาการเป็นขึ้นมาอีก และได้รับการรักษาโดย
functional endoscopic sinus surgery ซึ่งคิดว่าได้ทำการ
polypectomy ร่วมด้วย อีกเป็นจำนวน 4 ครั้ง ที่ รพ. รร6
และจากประวัติ พบว่าผู้ป่วยเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น chronic sinusitis
โดยมีปัจจัยเสริม ได้แก่ nasal polyp, allergic rhinitis
ซึ่งส่งผลให้ patency of the sinus ostia
เสียไป และต่อมาก็เกิด normal functioning mucosal cilia
เสียหน้าที่ไปจากการอักเสบนาน ๆ
ส่งผลให้เกิดภาวะที่เหมาะสมแก่เชื้อแบคทีเรียในการก่อโรค โดยในผู้ป่วยรายนี้
พบว่ามีผลทางพยาธิวิทยายืนยันว่าเป็น chronic sinusitis
ด้วย
มาในครั้งนี้ ผู้ป่วยมาด้วยอาการเช่นเดิม คือ
ผู้ป่วยมีอาการคัดแน่นจมูก เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีการเป็น ๆ หาย ๆ
ต้องหายใจทางปากช่วย มีน้ำมูกข้นเขียว เสมหะเหลืองไหลลงคอ ไอ จาม ระคายคอ
ต้องขากเสมหะบ่อย ๆ การรับกลิ่นเสียไป และการรับรสเสียไปด้วย
เสียงของผู้ป่วยเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่มีอาการคอแห้ง ไม่เจ็บคอเรื้อรัง ไม่มีไข้
ไม่ปวดหรือมึนศีรษะ และตรวจพบ mass
ในจมูกทั้งสองข้าง
ลักษณะของ mass
นั้นจำเป็นต้องแยกเป็นประเภท ซึ่งผู้ป่วยรายนี้มาด้วย progressive mass
คือ ค่อย ๆ โตมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสามารถวินิจฉัยแยกโรค
ได้ดังนี้
1. Nasal Polyp
คิดถึงมากที่สุดในผู้ป่วยรายนี้ เนื่องจากประวัติเข้าได้มาก
คือ อาการดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ร่วมกับมีประวัติการเคยเป็นโรคนี้มาก่อน เป็น ๆ
หาย ๆ หลายครั้ง ยิ่งทำให้คิดถึงมากขึ้น การตรวจร่างกายก็พบเป็นลักษณะที่
typical ของ nasal polyp 8อ สีเทา เรียบมัน
อ่อนนุ่มกึ่งโปร่งแสง (semitranslucent) พบที่
middle meatus ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พบได้มากที่สุดของ nasal
polyp
อายุที่พบ คือ 20-40 ปี ซึ่งเข้าได้กับผู้ป่วย
และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 1 2.5 เท่า
พบได้ทุกชนชั้นและทุกระดับเศรษฐานะ
ปัจจัยเสี่ยงของ nasal polyp ได้แก่
โรคภูมิแพ้ โรคติดเชื้อของโพรงจมูกและโพรงอากาศข้างจมูก เชื้อไวรัส
ภาวะแพ้แอสไพริน ความไม่สมดุลของการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ ความผิดปกติของ
carbohydrate metabolism โรค cystic fibrosis,
nasal mastocytosis พันธุกรรม และ epithelial rupture
theory
ในผู้ป่วยรายนี้ พบปัจจัยเสี่ยงที่ชัดเจน ได้แก่
allergic rhinitis และ chronic sinusitis
ดังนั้น ภาวะ chronic sinusitis อาจจะเป็นสาเหตุ หรือ
เป็นผลของ nasal polyp ก็ได้
ชนิดของ nasal polyp นั้น
สามารถแบ่งออกได้เป็น nasal polyp และ choanal
polyp (nasochoanal polyp and antrochoanal polyp)
แต่ในผู้ป่วยรายนี้คิดถึง choanal polyp น้อย
เนื่องจากจากการตรวจ nasopharynx ไม่พบ mass
ยื่นออกมาจาก choana
ส่วนใหญ่ของริดสีดวงจมูก
มีต้นกำเนินจากเยื่อบุใกล้รูเปิดของโพรงอากาศเอ็ธมอยด์ (ในอดีต
เชื่อว่าเกิดจากโพรงอากาศเอ็ธมอยด์)
2. Inverted Papilloma (Transitional Cell
Papilloma)
เป็น uncommon tomor in nasal cavity and nasal sinuses
แต่ทว่า They are of particular significance because of
their tendency to undergo malignant change and their tendency to recur
คิดถึงน้อย เนื่องจากโรคนี้มักพบเป็น unilateral
ร่วมกับจากอุบัติการ อายุ และการที่มีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย
3. Antrochoanal Polyp
เป็น polyp ซึ่งมีต้นกำเนิดจาก
maxillary antrum ซึ่งมักไม่พบ ethmoidal polyp
ร่วมด้วย แต่จะพบ polyp อยู่ในโพรงอากาศ
maxilla
คิดถึงน้อย เนื่องจากเหตุผลดังที่ได้กล่าวไปแล้ว คือ ไม่พบ
mass บริเวณ nasopharynx
4. Meningoencephalocele
เป็น dural and brain herniations
ซึ่งมัก related to the frontal bone, the ethmoid, or the nasal septum
ซึ่งเกิดจาก incomplete closure of the neuropore during
the 3rd embryonal week and trauma
คิดถึงน้อย เนื่องจาก age group
ไม่เข้า (มักพบในเด็กเล็ก) และไม่มีประวัติ trauma
ที่ชัดเจน
5. Benign tumor : Angiofibroma
angiofibroma is the most frequent benign timor พบในเพศชาย
เริ่มที่อายุ 10 ปี ซึ่งมักจะ spontaneously resolve after the age of
20-25 มักจะมีประวัติเลือดกำเดาออกอย่างรุนแรง
คิดถึงน้อย เนื่องจาก age group
ไม่เข้า ลักษณะของ mass ไม่เหมือน มักพบ
unilateral และมักมีประวัติ bleeding
6. Malignant Tumor : Squamous cell CA, olfactory neuroblastoma
คิดถึงน้อยมาก เนื่องจากลักษณะของก้อนดูแล้ว benign
(smooth surface) ไม่มีประวัติ bleeding
โดย ธีรยสถ์ นิมมานนท์
|