|
ไม้ค้ำยัน เป็นอุปกรณ์ช่วยในการเดินที่รับน้ำหนักของร่างกายได้ประมาณ 70 % วัสดุที่ใช้อาจทำด้วยไม้ หรืออะลูมิเนียม ไม้คำยันควรเป็นชนิดที่ปรับระดับได้ และส่วนปลายควรมียางสวมกันลื่น ขนาดความยาวพอดี ไม่สั้นหรือยาวเกินไป
ประโยชน์ของไม้ค้ำยัน1. เพิ่มความมั่นคงในการทรงตัวขณะเดิน 2. แบ่งเบาภาระการลงน้ำหนัก และการรับน้ำหนักของขาทั้งสองข้าง
การวัดขนาดไม้ค้ำยันความยาวของไม้ค้ำยันวัดโดยให้ผู้ป่วยยืนตรง กางแขนตรงในแนวราบระดับไหล่ ให้ส่วนพักรักแร้อยู่ต่ำกว่ารักแร้ประมาณ 2-3 เซนติเมตร ระดับของส่วนที่ใช้มือจับเมื่อได้ขนาดความยาวของไม้ค้ำยัน ให้ใช้มือจับส่วนใช้มือจับ ถือไม้ค้ำยันใต้รักแร้ให้ตั้งตรง ในขณะแขนงอ ให้ศอกทำมุม 20-30 องศา
ข้อควรปฏิบัติในการใช้ไม้ค้ำยัน- ก่อนเดินด้วยไม้ค้ำยัน ควรใส่รองเท้าคู่ที่พอดี สำรวจปลายไม้ค้ำยันมียางสวมกันลื่น - ยืนด้วยขาข้างที่ดี และทรงตัวให้ดี ยืนตัวตรง ศีรษะและตามองไปข้างหน้า - วางไม้ค้ำยันห่างจากนิ้วเท้าไปด้านหน้าประมาณ 6-8 นิ้ว - ให้ไหล่และหลังตรง ไม่ควรโค้งงอไปตามไม้ค้ำยัน - ลงน้ำหนักที่มือ ไม่ลงน้ำหนักที่รักแร้ เพราะจะทำให้เป็นอันตรายต่อเส้นประสาทบริเวณรักแร้ - ควรสำรวจไม้ค้ำยันให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ
วิธีการเดินด้วยไม้ค้ำยัน1. เดินโดยใช้ไม้ค้ำยัน 1 คู่ และขารับน้ำหนัก 4 จุด (Four point gait)ท่าเดินแบบนี้ เป็นท่าที่มั่นคง ปลอดภัย ใช้ในผู้ป่วยที่ลงน้ำหนักขาได้บ้างทั้ง 2 ข้าง
2. เดินโดยใช้ไม้ค้ำยัน 1 คู่ และขารับน้ำหนัก 2 จุด (Two point gait)เป็นท่าเดินที่เดินได้เร็วขึ้น ต้องการการทรงตัวที่ดี
3. เดินโดยขาข้างผิดปกติไม่รับน้ำหนักตัว ใช้ข้างปกติและไม้ค้ำยัน 1 คู่ รับน้ำหนัก รวม 3 จุด (Three point gait)ท่าเดินที่ใช้ในผู้ป่วยที่ลงน้ำหนักขาได้เล็กน้อย หรือไม่ให้ลงน้ำหนักขาข้างนั้นเลย เช่นผู้ป่วยใส่เฝือกปูนที่ขา หลังผ่าตัดใส่โลหะ หรือผู้ป่วยที่ถูกตัดขา เป็นต้น ผู้ป่วยที่เดินท่านี้ ต้องอาศัยการทรงตัวที่ดี และแขนต้องแข็งแรง พยุงน้ำหนักตัวได้
4. โหนตัวผ่านเลยไม้ค้ำยัน (Swing through gait)เป็นท่าเดินที่ใช้ในผู้ป่วยอัมพาตขาทั้ง 2 ข้าง ใส่อุปกรณ์เสริมสำหรับขาไว้ เช่น เบรส (Brace)
ความรู้สู่ประชาชน กองออร์โธปิดิกส์ รพ.พระมงกุฎเกล้า
|
ปรับปรุงครั้งล่าสุด 15/06/2010 ได้รับการสนับสนุน Web Hosting จาก SPAComputer.com, ThaWang.com |